คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
Home
/ คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ไฮเทค ฟู๊ด อีควิปเมนท์ จำกัด ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ไฮเทค ฟู๊ด อีควิปเมนท์ จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัท”) ดำเนินการ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้
-
ฐานความยินยอม (Consent): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้ง บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านไว้
-
ฐานสัญญา (Contract): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานสัญญา บริษัทใช้ฐานสัญญานี้เมื่อกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัททำกับท่าน หรือเพื่อใช้ในการปฏิบัติตามคำขอของท่านก่อนที่การเข้าทำสัญญา ยกตัวอย่างเช่น การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต่อการจัดหาผลิตภัณฑ์และการให้บริการตลอดจนจำเป็นต่อกระบวนการภายในเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ตามสัญญา
-
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การป้องกันและตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อกรมสรรพากรหรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด
-
ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หากมีความจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อสาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่หน่วยงานของรัฐมอบหมายให้แก่บริษัท
-
ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องมีการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
-
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้ลบล้างผลประโยชน์ของท่านหรือสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
-
ฐานการจัดทำเอกสารทางประวัติศาสตร์ (Research Objective): ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำเอกสารทางประวัติศาสตร์ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะหรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยหรือสถิติ
อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท อาจส่งผลให้ท่านไม่ได้รับความสะดวกในการดำเนินการ และอาจเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัท รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายบางประการซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับบทลงโทษ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่ปรึกษาและบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย บริษัทผู้ให้บริการการตลาดทางโทรศัพท์ พันธมิตรทางธุรกิจ ธนาคาร บริษัทตัวแทน บริษัทจัดหางาน ผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ซัพพลายเออร์ ผู้ขาย หรือเอาต์ซอร์ซ) และ/หรือหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
-
ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ รูปถ่าย ลายมือชื่อ สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารระบุตัวตนอื่นที่คล้ายกันที่ออกโดยรัฐบาล
-
ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ ไอดีไลน์ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆทาง Social.
-
ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเดบิต/บัตรเครดิต สถาบันการเงินที่ท่านเลือกใช้ เงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน
-
ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เช่น เลขทะเบียนรถ สี ยี่ห้อ รุ่น ตำแหน่งยานพาหนะ และ/หรืออุปกรณ์สื่อสาร และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
-
ข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายสินค้าและบริการ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการรับชำระเงินจากท่าน/คืนเงินไปยังท่าน, วันที่ชำระเงิน, เวลาชำระเงิน, ยอดชำระเงิน, หมายเลขการซื้อหรือคำสั่งซื้อ, วัน/เวลาในการรับหรือจัดส่งสินค้า, ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ, วัน/เวลาที่ใช้บริการ, ประวัติการติดต่อ (ระหว่างท่านกับบริษัท), ข้อความตอบรับสินค้าจากท่าน, ข้อมูลการรับประกันสินค้า, คำร้องเรียนและข้อร้องเรียน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าและบริการจากท่าน
-
ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ และข้อมูลระบบ เช่น IP address MAC address Cookie ID
-
ข้อมูลอื่น ๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บันทึกจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
-
3.1 เพื่อให้ท่านได้ใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่าน และเพื่อการอื่นที่จำเป็นภายใต้กฎหมาย
-
3.2 เพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท(Contractual Basis)
-
3.3 เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ (Legal Obligation) เช่น
-
การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
-
การปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายประกันชีวิต กฎหมายประกันวินาศภัย กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
-
3.4 เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) เช่น
-
การบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV ก่อนเข้าหรือระหว่างอยู่ภายในอาคาร
-
การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้า โดยพนักงานของบริษัท การแจ้งเตือนหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่าน
-
การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัท
ในเครือกิจการเดียวกันเพื่อการดังกล่าว ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ (Binding Corporate Rules)
-
การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
-
การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระ
หนี้หรือผิดสัญญา การทำผิดกฎหมายต่างๆ (เช่น ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียง) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น
-
การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของลูกค้านิติบุคคล
-
การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือออกบูธ
-
การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
-
การรับ-ส่งพัสดุ
-
การคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่ออกคำขอใบเสนอราคา และเพื่อทำสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ
-
วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เพื่อการติดต่อ ริเริ่ม หรือบริหารความสัมพันธ์เชิงสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูลและพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ เพื่อดำเนินธุรกรรมที่ทำขึ้นโดยพันธมิตรทางธุรกิจ (เช่นการนำส่ง การแลกเปลี่ยนและส่งคืนสินค้า การออกใบแจ้งราคาและใบเสร็จรับเงิน) และเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันและ/หรือตามคำขอของพันธมิตรทางธุรกิจ
-
การบริหารความสัมพันธ์ เพื่อสร้างรหัสผู้ขาย เพื่อจดทะเบียนในรายชื่อ / สารบบของพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บริการสนับสนุน ติดตามและจัดทำบันทึก
-
การดำเนินธุรกิจ เพื่อปฏิบัิตามข้อกำหนดว่าด้วยการเก็บรักษาบันทึกภายใน การจัดการภายใน การสอบบัญชี การรายงาน การส่งหรือยื่นข้อมูล การประมวลผลข้อมูล หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายกัน
-
เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันความเสี่ยงหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
-
3.5 เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านเลือกให้ความยินยอมไว้ เช่น
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทข้อมูลเครดิต ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องบัญญัติไว้ ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว โดยผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
5. การส่ง และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทเช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud ในประเทศต่างๆ
กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้
6. การรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นหรือตราบเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ข้อกำหนดทางด้านบัญชีและ / หรือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในระยะเวลานานกว่านั้น และในกรณีที่พ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็น ทางบริษัทจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
การจัดเก็บและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกจัดเก็บอย่างจำกัดไว้ในรูปเอกสารภายในสำนักงานของบริษัท หรือจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ทางบริษัทเข้าถึงและจัดดำเนินการโดยบริษัทหรือผู้ให้บริการที่ได้รับสิทธิ์อนุญาตเท่านั้น
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่บริษัทได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายนี้ ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
-
การรับทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล : สิทธิที่จะได้รับการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม วิธีการเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ บุคคลที่จะได้รับข้อมูล และระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูล
-
การเข้าถึง : สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท
-
การโอนย้ายข้อมูล : สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้
-
การคัดค้าน : สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
-
การขอให้ลบหรือทำลาย : สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ โดยให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
-
การขอให้ระงับการใช้ : สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นการชั่วคราวได้
-
การแก้ไขให้ถูกต้อง : สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
-
การยื่นเรื่องร้องเรียน : สิทธิที่จะร้องเรียนต่อบริษัท หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหากท่านเห็นว่าสิทธิใดๆ ของท่านได้ถูกบริษัทละเมิดเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายแก่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
-
การขอให้เปิดเผย : สิทธิที่จะขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้
-
การถอนความยินยอม : สิทธิในการขอถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท ซึ่งท่านได้ให้ความยินยอมไว้
ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น ท่านจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่เกินกว่าระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
การใช้สิทธิขอลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลเป็นการชั่วคราว หรือการเพิกถอนความยินยอม อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้
9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทจะได้ประกาศและแสดงลงบนเว็ปไซต์ของบริษัท หรือด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสม เราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำ
10. ข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัท
บริษัทมีการใช้คุกกี้ในเว็บไซต์ของทางบริษัทเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น และรวบรวมสถิติโดยรวมโดยไม่เปิดเผยตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อช่วยในการเข้าถึงความต้องการและวัตถุประสงค์การเข้าถึงเว็บไซต์ของผู้ใช้งานเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทต่อไปหลังจากที่ทราบนโยบายแล้ว จะถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
11. การติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยที่เกี่ยวกับข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 8. หรือประสงค์เพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ไฮเทค ฟู๊ด อีควิปเมนท์ จำกัด, เลขที่ 1970, 1971, 1972 ม.1, ถ.สุขุมวิท ซ.74, ต.สำโรงเหนือ, อ.เมืองสมุทรปราการ, จ.สมุทรปราการ, 10270 ประเทศไทย (E-mail: ga@hitec-th.com, Tel: 02-026-3543)
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และถูกเผยแพร่ในรูปแบบของการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท
นโยบายฉบับนี้ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง